…ในช่วงปี 1991-1992 เมื่อนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการทดลองโครงการไบโอสเฟียร์ 2 (Biosphere 2) ในรัฐแอริโซนา ค้นพบว่าพวกเราไม่สามารถรักษาระดับออกซิเจนให้คนแปดคนที่อาศัยอยู่ในโครงการจำลองธรรมชาติมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ (Hawken et al. 2009) โลกเราทำสิ่งนี้ให้มนุษย์ 7 พันล้านคนทุกวันโดไม่คิดค่าใช้จ่าย… (อุทยานแห่งผืนดิน.–กรุงเทพฯ: สวนเงินมีมา, 2557. )
ร่างกายจำเป็นต้องพึ่งพาหลายสิ่งจากระบบนิเวศในการดำรงชีวิต โดยที่เราไม่ต้องจ่าสดหรือรูดบัตรซื้อหามาให้ชีวิต แต่ธรรมชาติให้เราฟรีไม่เอาเงินซักบาท
ทั้งอากาศสะอาดพร้อมสูด ที่บางครั้งเราก็ทำให้มันสกปรกเกรงที่จะสูดให้เต็มปอด น้ำที่เก็บอยู่กับธนาคารท้องฟ้าและธนาคารแม่น้ำลำคลอง ล่วงหล่นไหลรินให้ใช้ฟรีอาบฟรี แต่ตอนนี้คลองบางที่แค่เดินผ่านก็ต้องเอามืออุดจมูก น้ำฝนก็เคยได้ยินมาว่าไม่สะอาดเหมือนที่เคย อีกทั้งยังพืชพรรณนานา
นอกจากสิ่งต่างๆที่เราต้องการแล้ว ระบบนิเวศยังช่วยจัดการกับสิ่งที่เราไม่ต้องการ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปจนถึงสิ่งปฏิกูลในเมืองใหญ่
บริการทางสิ่งแวดล้อมและสิ่งต่างๆที่เราได้รับจากระบบนิเวศไม่มีสิ่งใดสามารถมาทดทนได้ (อย่างน้อยก็ภายในปี ค.ศ. 2019) ลองจินตนาการดู มันน่าจะยากแค่ไหนถ้าเราต้องประดิษฐ์สร้างระบบนิเวศเทียมขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ทุกอย่างแทนระบบนิเวศของจริง
แต่ส่วนใหญ่พวกเรากลับมองข้ามสิ่งที่ระบบนิเวศมอบให้ ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น หรืออาจเพราะเรามีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ทำให้ชีวิตและร่างกายเราสบายมากจนเกินไป จนทำให้เราเมินต่อสภาพความเป็นจริงของธรรมชาตไปบ้าง
เช่น ตราบใดที่เราอยู่บนรถที่เปิดแอร์เย็นสบายและอากาศในรถก็สะอาดในระดับหนึ่ง เราก็ไม่สนใจว่าอากาศบนท้องถนนจะเต็มไปด้วยมลพิษมากแค่ไหน บรรยากาศร้อนขึ้นเพราะไอเครื่องยนต์และปริมาณต้นไม้ที่น้อยเกินไป แม้ว่าพวกเราจะสร้างมลภาวะจำนวนมากขึ้นทุกๆวัน แต่ระบบนิเวศตามธรรมชาติก็ยังใจดีช่วยจัดการกับสิ่งเหล่านั้นเสมอ
ตราบใดเรามีน้ำใช้โดยไม่เดือดร้อน เราก็ไม่สนใจเรื่องแหล่งที่มาของน้ำหรือมันเดินทางไปที่ไหนเมื่อใช้เสร็จแล้ว รู้หรือไม่ว่าน้ำที่เราใช้แล้วไม่ว่าจากการอาบน้ำ ล้างจาน หรือน้ำที่ใช้แล้วจากสุขภัณฑ์ ทั้งหมดเหล่านี้ก็จะวนกลับมาให้เราใช้ใหม่อีกครั้ง โดยผ่านระบบบำบัดน้ำ และกระบวนการที่ซับซ้อนต่างๆเพื่อปรับปรุงคุณภาพและความสะอาดของน้ำ ซึ่งจำเป็นต้องต้องใช้พลังงานและทรัพยากรมากมายสำหรับกระบวนการเหล่านี้
เราปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่มีพืชพรรณต้นไม้เพื่อสร้างสรรค์สิ่งปลูกสร้างต่างๆ สร้างความเป็นเมืองที่เจริญให้เกิดขึ้น ดีขึ้น หวังให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข
แต่อากาศที่สะอาดดีต่อสุขภาพ อุหภูมิที่เป็นไปตามธรรมชาติ ตามฤดูกาล ทำให้อากาศเย็นสบายอย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศมากเกินไป สิ่งเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นเดียวกัน
ปัญหาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอาจจะทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องที่ห่างไกลเกินกว่าจะให้ความสำคัญสำหรับคนในเมือง แม้ว่าจะเราจะได้รับรู้ประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆมาบ้าง แต่อาจเป็นเพราะลึกๆในใจแล้วเราคิดว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่มีทางมาถึง และจะไม่มีวันเป็นปัญหาต่อเราอย่างแน่นอน
พวกเราที่ J-design เชื่อว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือรูปแบบการใช้ชีวิตเล็กๆน้อยๆของเราก็สามารถเป็นส่วนเล็กๆที่ส่งผลที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมได้ ธรรมชาติและมนุษย์ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เมื่อเคารพซึ่งกันและกัน ให้และรับอย่างสมดุล มนุษย์และธรรมชาติก็จะได้รับความยั่งยืนเป็นผลตอบแทน